รีวิวซีรี่ย์ Jupiter’s Legacy “เต็มไปด้วยเรื่องดราม่า”

สำหรับภาพยนต์เรื่อง Jupiter’s Legacy ของครอบครัวเหล่าซุปเปอร์ฮีโร่เรื่องนี้ มีแต่ประเด็นที่เต็มไปด้วยความดราม่า ฉากแอคชั่น ต่อสู้ไม่ค่อยเยอะ หากใครหวังจะมาชมฉากมันส์ๆละก็อาจจะผิดหวังนิดหน่อย หนังฮอลลีวูด หนังใหม่

ดูเหมือนว่าความดราม่ากับฮีโร่จะไม่ค่อยเข้ากันเท่าไหร่ทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้เต็มไปด้วยความน่าผิดหวังมากมาย ปัญหาหลักที่ภาพยนตร์เรื่องนี้หยิบยกมานำเสนอคือปัญหาครอบครัวโดยเฉพาะครอบครัวของซุปเปอร์ฮีโร่ที่มักจะต้องไปเผชิญความอันตรายและทำให้ครอบครัวตกอยู่ในอันตรายไปด้วย

Jupiter’s Legacy

แม้ว่าจะเป็นไอเดียแปลกใหม่ที่น่าสนใจกับผลกระทบที่ตัวซุปเปอร์ฮีโร่และครอบครัวได้รับนั้นให้ความรู้สึกคล้ายคลึงกับภาพยนตร์อนิเมชั่นจากดิสนีย์เรื่อง The Incredibles เพียงแต่บรรยากาศภายในเรื่องจากมีความจริงจังมากกว่า ปัญหาอยู่ที่ฉากคอมพิวเตอร์กราฟฟิกที่พยายามจะนำเสนอการต่อสู้อันทรงพลังและพลังพิเศษของฮีโร่

ด้วยความต้นทุนต่ำทำให้มันออกมาไม่มีความสมจริง บทไม่ได้กระจายความสำคัญตัวละครภายในเรื่องให้เท่าเทียมกันโดยเฉพาะตัวละครรุ่นลูก เล่าแบบตรรกะเรื่องราวระหว่างปัจจุบันและอดีตมากเกินไปจนทำให้ผู้รับชมรู้สึกสับสน แต่ส่วนดีก็มีเช่นเดียวกันอย่างเช่นการตั้งคำถามกับสังคมเกี่ยวกับการทำความดีของฮีโร่แบบดั้งเดิมในปัจจุบัน ความเกี่ยวข้องระหว่างบทบาทของฮีโร่และสภาพเศรษฐกิจสังคม

Jupiter’s Legacy

ซีรีส์เรื่องนี้จะเล่าถึงเรื่องราวของโลกที่มีซุปเปอร์ฮีโร่มาอย่างยาวนานนับศตวรรษ พวกเขาอยู่ในสังคมตั้งแต่ช่วงยุคบุกเบิกอุตสาหกรรมในสหรัฐอเมริกา พวกเขาได้รวมกลุ่มกันเพื่อตั้งสหภาพฮีโร่ขึ้นมาพร้อมกับการตั้งกฎมากมายให้ฮีโร่ปฏิบัติตาม

ไม่ว่าจะเป็นการห้ามสังหารคนร้าย ห้ามเข้าไปแทรกแซงการทำงานของรัฐบาล ห้ามเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ในประวัติศาสตร์เพื่อรักษาเจตจำนงเสรีของมนุษยชาติเอาไว้ พวกเขาไม่ได้ออกมาทำภารกิจเหมือนกับที่เราเห็นในภาพยนตร์ทั่วไปแต่เปรียบเสมือนกับสัญลักษณ์ของความดีงามที่ผู้คนนิยมชมชอบ

Jupiter’s Legacy

แต่พอเข้าสู่ยุคปัจจุบันที่สังคมมีความเสื่อมโทรมลงไป ลูกของพวกเขานั้นมองว่ากฎทั้งหลายที่ถูกตั้งขึ้นมาในอดีตเป็นสิ่งที่ขัดขวางไม่ให้พวกเขาสามารถรักษาความยุติธรรมในสังคมเอาไว้ได้ สุดท้ายลูกของฮีโร่บางคนก็ตัดสินใจที่จะแหกกฎ ซึ่งคนแรกที่แหกกฎก็ไม่ใช่ใครที่ไหนแต่เป็นลูกชายของผู้นำของสหภาพ และมันก็นำมาซึ่งผลกระทบที่ทำให้ทั้งตัวฮีโร่และครอบครัวเองต้องเผชิญกับสิ่งที่ไม่เคยพบเจอมาก่อน

เรื่องย่อหนังใหม่ SPACE JAM A NEW LEGACY (2021) สเปซแจม สืบทอดตำนานใหม่

ภาพยนต์แอนิเมชั่นที่จะพาทุกคนทะลุมิติไปอีกห้วงกับการแข่งขันบาสเก็ตบอลสุดแปลกใหม่ ในโลกของดิจิดอลด้วยฝีมือของหุ่นยนต์ตัวร้ายสร้างขึ้น ทางเดียวที่จะหลุดพ้นจากมิตินี้ได้คือต้องชนะการแข่งขันบาสเก็ตบอล แนะนำซีรี่ย์น่าดู2021

Space Jam: A New Legacy (2021) - Keep Trailers ตัวอย่างหนังใหม่ล่าสุด 2021
Space Jam: A New Legacy - Major Cineplex รอบฉายเมเจอร์ รอบหนัง จองตั๋ว หนัง ใหม่

เรื่องย่

เลอบรอน และ ดอม ลูกชายของเขาติดอยู่ในมิติแห่งโลกดิจิตอลโดยฝีมือของหุ่นยนต์เอ.ไอ.ตัวร้าย เลอบรอน มีทางเลือกเดียวที่จะสามารถพาผู้เป็นที่รักกลับบ้านได้อย่างปลอดภัย นั่นก็คือรวมตัว บั๊ก และ โลล่า บันนี่ กับชาวแก๊งลูนีย์ ทูนส์ที่เลื่องชื่อในความวายป่วง เพื่อเอาชนะหุ่นยนต์แชมป์เปี้ยนระดับโปรเพลย์เยอร์ ผู้เป็นเจ้าของทักษะกีฬาที่ไม่เคยมีใครเห็นมาก่อนในสนามแข่งขันบาสเก็ตบอลให้ได้

ตัวอย่าง

รีวิวหนัง WE CAN BE HEROES (รวมพลังเด็กพันธุ์แกร่ง)

หนัง Netflix ที่ดีที่สุด และเป็นหนังที่กำลังฮิตเรื่องแรกนั้น เป็นเรื่องที่ดูเหมือนไม่น่าจะมีอะไร แต่ก็ดันติดอันดับต้นๆ ของหนังฮิตซะอย่างงั้น อาจเป็นเพราะว่าหนังได้ทำเป็นเรื่องต่อจาก The Adventures of Sharkboy and Lavagirl ที่เคยถูกฉายออกมาในปี 2005 โดยเรื่องนี้จะเป็นภาคต่อเนื้อเรื่องที่ Sharkboy กับLavagirl ได้เติบโตขึ้น และได้แต่งงานมีลูกกันหมดแล้ว หนังฮอลลีวูด หนังใหม่

รีวิว We Can BE Heroes รวมพลังเด็กพันธุ์แกร่งเจ๋งกว่ารุ่นพ่อ

แน่นอนว่าลูกของพวกเขาเอง ก็ต้องมีพลังตามแบบพ่อแม่ไปด้วย พลังที่ว่านี้ก็คือพลังการควบคุมน้ำ แต่ตัวเอกของเรื่องคือ มิสซี มอเรโน ลูกของฮีโร่เช่นกัน เธอนั้นต้องพาเหล่าลูกฮีโร่คนอื่นๆ เพื่อมาตั้งกลุ่มใหม่ด้วยกัน เพื่อเข้าไปช่วยเหลือพวกผู้ใหญ่ ที่ถูกตัวร้ายจับตัวไป เรื่องนี้ดูเอาสนุกสนานก็พอได้อยู่ อารมณ์พอๆ กับหนังตำนานอย่าง Spy Kids ที่พอจะเดาเนื้อหาได้ แต่ถ้าจะไปเทียบกับหนังฮีโร่ใหญ่ๆ ก็ไม่ต้องหวังถึงขนาดนั้น ดูแค่พอสนุกก็พอแล้ว

สปอยหนัง] รวมพลังเด็กพันธุ์แกร่ง | WE CAN BE HEROES | ประสบการณ์  เรียนรู้การวาด สำหรับเด็ก - Kênh nhạc ru ngủ, nhạc thư giãn lớn nhất Việt  Nam
หนังWE CAN BE HEROES รวมพลังเด็กพันธุ์แกร่งเป็นเรื่องราวที่เรียกว่าสนุกมาก

รีวิวหนังสยองขัวญ FEAR STREET PART ONE: 1994

(เคียนา มาเดรา) สาวหัวรั้นที่มองว่าเมืองเชดี้ไซด์นั้นเป็น บ้านนอกที่เต็มไปด้วยเรื่องราวสุดวิปริตและไม่เคยสร้างสภาพแวดล้อมที่ส่งผลดีกับผู้คนในเมือง จนกลายเป็นเมืองที่ขึ้นชื่อเรื่องอาชญากรรมอันดับต้นๆของอเมริกา ในขณะที่แซม (โอลิเวีย สก็อตต์ เวลช์) อดีตคนรักเก่าของดีน่า ย้ายไปอยู่ที่เมืองซันนี่เวล ซึ่งเป็นเมืองที่มีความเจริญทางเศรษฐกิจและสงบสุข  แนะนำซีรี่ย์น่าดู2021

หลังจากที่งานไว้อาลัยให้กับผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ฆาตกรรมสยองขวัญในห้างสรรพสินค้า ดีน่าและแซมได้พบกันอีกครั้ง ขณะที่ดีน่ารู้สึกไม่พอใจแซมที่ได้ไปเริ่มต้นชีวิตและคบหากับคนรักใหม่ ระหว่างที่แยกย้ายเดินทางกลับด้วยรถโรงเรียน แซมและแฟนใหม่ตัดสินใจขับรถมาป่วนดีน่าและเพื่อนๆ จนเกิดอุบัติเหตุ ส่งผลให้แซมที่นั่งอยู่ในรถยนต์ได้รับบาดเจ็บพร้อมกับเห็นนิมิตประหลาดเกี่ยวกับแม่มด หลังจากนั้นไม่นานเหตุการณ์ประหลาดได้เริ่มคืบคลานเข้ามาหา ดีน่า แซม จอช เคท ไซมอน และปีเตอร์ โดยที่พวกเขาไม่รู้ตัว

แรกเริ่มเดิมที Fear Street Part One: 1994 ทำให้คนดูเข้าใจว่ามันจะเป็นหนังสยองขวัญในหมวดหนัง “ไล่เชือด” (Slasher) แต่หลังจากดำเนินเรื่องไปไม่ได้นาน หนังก็พร้อมจะพลิกความคาดหมายของคนดู ด้วยการซ้อนทับเรื่องราวตำนานพื้นบ้านเข้าไป เพื่อเพิ่มน้ำหนักให้กับความลึกลับสยองขวัญของเรื่องให้มากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังเป็นกลวิธีในการเชื่อมโยงจักรวาล Fear Street ว่าเรื่องราวอาถรรพ์ที่เกิดขึ้นในเมืองเชดี้ไซด์นั้นอาจจะมีพื้นเพ รากเหง้ามาตั้งแต่ในอดีต

นอกจากหนังจะเล่าเรื่องราวของอาถรรพ์ซึ่งนำมาซึ่งความหวาดกลัวในสังคมแล้ว หนังยังชาญฉลาดด้วยการซ้อนทับความกลัวของตัวละครอย่างดีน่า ตัวละคร LGBTQ ที่มีปัญหาในการจัดการความรู้สึกของตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นการแสดงอารมณ์ฉุนเฉียว ขี้โมโห เพราะเธอรู้สึกว่า “เมืองที่เธออยู่นั้นเต็มไปด้วยความวิปริต” เธอจึงรู้สึกอิจฉาคนอื่นที่มีความสุขกว่าตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความรัก หรือคุณภาพชีวิตที่ดีกว่า เธอจึงพยายามนำความรู้สึกไม่พอใจไปลงกับคนอื่น ไม่ว่าจะเป็นน้องชาย หรืออดีตคนรักอย่างแซม

ระหว่างที่หนังเริ่มโยนความสยองขวัญมาใส่คนดู ต้องยอมรับว่าผู้กำกับหญิงอย่างลีห์ จาเนียค แม่นยำในการจับจังหวะในการสร้างความตื่นเต้นให้กับผู้ชม มิหนำซ้ำเมื่อถึงเวลาที่หนังต้อง “ฆ่า” ตัวละครสักคนทิ้ง หนังก็ยังเลือดเย็นและใจร้ายกับคนดูแบบไม่สนใจว่าผู้ชมจะก่นด่าแค่ไหนก็ตาม จึงถือได้ว่า Fear Street Part One: 1994 สามารถเปิดไตรภาคนี้ได้อย่างน่าสนใจ

Venom 2 เตรียมลงจอเร็วๆนี้ หลังจากภาคแรกทำรายได้ถล่มทลาย

Venom ภาคแรกทำรายได้รวมทั่วโลกไป 856 ล้านเหรียญฯ ในปี 2018 กลายเป็นความสำเร็จที่ทำให้ค่าย Sony มั่นใจอยู่พักนึงว่าจะสามารถรันจักรวาล Spider-Man ได้ด้วยตัวเอง ถึงขนาดจะจับแยก Spider-Man ขอคืนจาก MCU แต่สุดท้ายการเจรจา (ที่ดูเหมือนจะเป็นละครสร้างกระแส) ก็จบลงได้ระหว่าง Disney และ Sony โดย Sony กลับมาขยายจักรวาลต่อด้วยหนังแวมไพร์ Morbius ที่จะเข้าฉายเดือนกรกฎาคมปีนี้เช่นกัน ต่อด้วย Venom 2 ในช่วงเดือนตุลาคม ซีรี่ย์ใหม่

Woody Harrelson ที่โผล่มาเซอร์ไพรส์มิดเครดิตของภาคแรก ในบทของคาร์เนจ
Woody Harrelson ที่โผล่มาเซอร์ไพรส์มิดเครดิตของภาคแรก ในบทของคาร์เนจ

หนังใช้เวลาถ่ายทำเพียง 8 สัปดาห์ และยังมี Naomie Harris จาก 007 Skyfall (2012) & Spectre (2015) และ Pirates of the Caribbean 2-3 (2006-2007) มารับบทเป็นตัวร้าย “ชีค” คนรักของคาร์เนจอีกหนึ่งตัวภายในเรื่อง สมทบด้วยนักแสดงจากภาคแรก Michelle Williams กลับมารับบทคนรักของ “เอ็ดดี้ บร็อค” อย่าง “แอนน์ เวอิง”โดยหนังจะมีทิศทางที่สยองขวัญมากขึ้นกว่าภาคแรก โดยได้ผู้กำกับอย่าง Andy Serkis (Brave, Mowgli: Legend of the Jungle) นักแสดงเจ้าบทบาทโมชันแคปเจอร์มากำกับ

แฟน ๆ จักรวาลมาร์เวลจะได้ฟินกันไปยาว ๆ เพราะนับจากนี้จนถึงปี 2022 ค่ายนี้จะมีหนังฮีโรและวายร้ายมาร์เวลาให้ดูกันถึง 5 เรื่องเลยทีเดียว ซึ่งกำหนดฉาย 21 กรกฎาคม 2021 ที่เพิ่งมีประกาศออกมาล่าสุดนั้น น่าจะเป็นของ เรื่องใดเรื่องหนึ่ง ระหว่าง Black Cat, Silver Sable, Kraven the Hunter, Nightwatch, Madam Web และ Silk ที่ Sony กำลังพยายามนำมาขึ้นจอใหญ่ให้ได้ในตอนนี้

คาร์เนจในชุดสีสันและวิกสีแดง แตกต่างจากภาคแรก

ตัวอย่าง

Blog at WordPress.com.

Up ↑

Design a site like this with WordPress.com
Get started